วันเดินทางไป - กลับ | ผู้ใหญ่ท่านละ | พักเดี่ยวเพิ่มเงิน | ราคาเด็กท่านละ | |
---|---|---|---|---|
30 พ.ย. 67 - 13 ธ.ค. 67 | 159,000 บาท | 25,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
18 ม.ค. 68 - 31 ม.ค. 68 | 159,000 บาท | 25,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
15 มี.ค. 68 - 28 มี.ค. 68 | 159,000 บาท | 25,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
12 เม.ย. 68 - 25 เม.ย. 68 | 169,000 บาท | 25,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
10 พ.ค. 68 - 23 พ.ค. 68 | 159,000 บาท | 25,000 บาท | สอบถามเพิ่มเติม | จอง |
01.30 น. คณะพร้อมกัน ณ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ ชั้น 4 ประตู 9 ROW U เคาน์เตอร์สายการบิน Turkmenistan Airlines เจ้าหน้าที่บริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
04.40 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินอาชกาบัด โดยสายการบิน Turkmenistan Airlines เที่ยวบินที่ T5642 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
10.10 น. เดินทางถึง สนามบินอาชกาบัด (Ashgabat Airport) (เวลาของเติร์กเมนิสถานช้ากว่าไทย 2 ชั่วโมง)
หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและผ่านด่านศุลกากรแล้ว นำท่านเดินทางเข้าสู่ตัว เมืองอาชกาบัด (Ashgabat) เมืองหลวงของเติร์กเมนิสถาน เมืองที่ได้ชื่อว่าสวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในเอเชียกลาง หรือเรียกอีกชื่อว่า “เมืองแห่งความรัก” เป็นเมืองใหญ่ที่สุดของเติร์กเมนิสถาน ตั้งอยู่ระหว่าง ทะเลทรายคาราคุม (Karakum) และ เทือกเขาโคเพตแด๊ก (Kopet Dag) เป็นที่ตั้งของที่ทำการรัฐบาลและศูนย์กลางการบริหารประเทศเป็นอีกหนึ่งเมืองสำคัญบนเส้นทางสายไหม (Silk Road) อีกทั้งภายในเมืองอาคารทุกหลังจะมีสีขาวประดับตกแต่งด้วยหินอ่อนสวยงาม จึงได้ชื่อว่าเป็นเมืองสีขาว…
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ร้านอาหาร
บ่าย นำท่านเดินทางเข้าสู่ที่พัก Ak Altyn Hotel หรือเทียบเท่า (N1) อิสระให้ท่านได้พักผ่อนตามอัธยาศัย
16.00 น. นำท่านชม ทำเนียบประธานาธิบดี (The Presidential Palace) อาคารในสถาปัตยกรรมร่วมสมัย สะท้อนถึงมรดกทางสถาปัตยกรรมและวัฒนธรรมที่สืบทอดจากเปอร์เซียโบราณ ผ่านชม อาคารรัฐสภา (Turkmen Parliament Building) ผ่านชม มัสยิดอาร์โตกรูล (Artogrul Gazy) ซึ่งต้ังชื่อตามชื่อบิดาของบุรุษผู้ยิ่งใหญ่อย่าง ออสมาน กาซี ผู้ก่อตั้งจักรวรรดิออตโตมาน
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Ak Altyn Hotel หรือเทียบเท่า (N1)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ Old Nisa หรือ เมืองหลวงแห่งจักรวรรดิพาร์เธียน ตั้งอยู่บนเนินเขาทางตอนเหนือของเทือกเขาโคเพตแด๊ก ใกล้เมืองอาชกาบัดในปัจจุบัน ที่นี่เป็นหนึ่งในเมืองหลวงในยุคแรกของจักรวรรดิ พาร์เธียน ซึ่งเป็นหนึ่งในอาณาจักรที่ทรงอิทธิพลที่สุดในสมัยโบราณ ก่อตั้งขึ้นในศตวรรษที่ 3 โดยราชวงศ์ Arsacid และมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์ของโลกยุคโบราณ ภายใต้การปกครองของพระเจ้ามิธริดาเตสที่ 1 เมืองนี้ประสบกับช่วงเวลาของการขยายตัวและความเจริญรุ่งเรือง โดยกลายเป็นศูนย์กลางการค้าและการพาณิชย์บนเส้นทางสายไหม สถาปัตยกรรมและการออกแบบของเมืองได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมกรีกและโรมัน ทำให้เกิดการผสมผสานที่มีเอกลักษณ์ระหว่างสไตล์ท้องถิ่นและโบราณ ในช่วงที่รุ่งเรือง Old Nisa เป็นศูนย์กลางของศิลปะวัฒนธรรมและการเรียนรู้ อย่างไรก็ตามความเสื่อมถอยเริ่มขึ้นในศตวรรษที่ 1 ก่อนคริสต์ศักราช เนื่องจากความขัดแย้งภายในและแรงกดดันจากภายนอกจากจักรวรรดิใกล้เคียง ในที่สุดเมืองนี้ก็ถูกทิ้งร้างในศตวรรษที่ 3 และซากปรักหักพังถูกค้นพบอีกครั้งในศตวรรษที่ 19 ปัจจุบัน Old Nisa ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดยยูเนสโก (UNESCO) ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลก ให้คุณได้สัมผัสโลกยุคโบราณและมรดกของจักรวรรดิพาร์เธียน และเป็นเส้นทางการค้าที่มีชื่อเสียงของเส้นทางสายไหมทอดผ่านจักรวรรดิพาร์เธียน ภายในบริเวณประกอบด้วยอาคารและป้อมปราการที่สำคัญ ๆ หลายแห่ง
จากนั้นนำชม Turkmenbashi Ruhy Mosque มัสยิดที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียกลาง และ มัสยิดหลักของเติร์ก เมนิสถาน สร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2545-2547 ตามความคิดริเริ่มของ เติร์กเมนบาชิ หมายถึง "มัสยิดแห่งจิตวิญญาณเติร์กเมนบาชิ" หรือ "มัสยิดแห่งจิตวิญญาณแห่งเติร์กเมนบาชิ" มัสยิดแห่งนี้ตั้งอยู่ในกึปจัก ภายในมัสยิดมีโถงละหมาดขนาดใหญ่ที่มีเสาสีขาวและโดมสีฟ้าท้องฟ้าที่ทาสีอย่างหรูหรา พื้นห้องทำความร้อนปูด้วยพรมเติร์กเมนิสถานทำมือขนาดใหญ่ สามารถรองรับคนได้ประมาณ 10,000 คน แต่โดยปกติจะมีผู้เยี่ยมชมน้อยคน ใต้มัสยิดมีที่จอดรถใต้ดินสามารถจอดรถได้มากกว่า 400 คัน
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ ทะเลสาบใต้ดิน (Kow Ata Underground Lake) ให้ท่านได้สัมผัสกับทะเลสาบใต้ดินในถ้ำ ที่มีความลึกถึง 55 เมตร อยู่ใกล้กับเมืองอาชกาบัดที่บริเวณเชิงเขาโคเพตแด๊ก ซึ่งเป็น ถ้ำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในเครือรัฐเอกราช โดยมีบันไดไม้ให้ปีนขึ้น-ลงจากปากถ้ำเชื่อมลงไปสู่ทะเลสาบสวยงาม ภายในถ้ำ สามารถลงไปเล่นน้ำหรือแช่ตัวสบาย ๆ เพื่อผ่อนคลายแบบส่วนตัวสุด ๆ สามารถลอยตัวได้โดยไม่จม อีกทั้งยังมีปล่องทะลุเพดานถ้ำด้านบน เป็นช่องให้แดดส่องลงมากระทบกับผืนน้ำสีมรกต ทำให้เกิดความงดงามอย่างยิ่ง… (ท่านสามารถเตรียมชุดไปเล่นน้ำได้)
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Ak Altyn Hotel หรือเทียบเท่า (N2)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
ชม จัตุรัสอิสรภาพ (Independence Square) เป็นอนุสาวรีย์ที่แสดงถึงการประกาศอิสรภาพของประเทศ โดยมีรูปปั้นของอดีตผู้นำของประเทศในยุคต่าง ๆ และมีการตกแต่งด้วยน้ำพุอย่างสวยงาม บริเวณจัตุรัสเป็นที่ตั้งของอาคารสำคัญ เช่น พระราชวังของประธานาธิบดีเติร์กเมนบาชิ กระทรวงยุติธรรม กระทรวงกลาโหม ฯลฯ ชม อนุสาวรีย์ม้า (Monument of Akhal-Teke) ซึ่งเป็นรูปปั้นม้าสีทองเรียงรายกันอยู่หลายตัว เป็นสัญลักษณ์ของม้าสายพันธุ์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศ
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ หมู่บ้านดาร์วาซ่า (Darvaza-Derweze) (ระยะทาง 277 กม. / 3.25 ชม.) หรือที่เรียกกันว่า “ประตูสู่นรก-ประตูแห่งไฟ” (Gateway to Hell-Door to Hell) หลุมก๊าซดาร์วาซ่า เป็นชื่อเรียกของหลุมขนาดมหึมาที่อยู่กลางทะเลทรายคาราคุม (Karakum) ใกล้หมู่บ้านดาร์วาซ่า จังหวัดอาฮาล เติร์กเมนิสถาน ห่างจากกรุงอาชกาบัด เมืองหลวงของเติร์กเมนิสถานไปทางเหนือประมาณ 260 กิโลเมตร หลุมยักษ์ที่มีความกว้าง 69 เมตร และลึก 30 เมตร เป็นผลที่เกิดจากความผิดพลาดในการขุดเจาะสำรวจน้ำมันของทีมวิศวกรจากสหภาพโซเวียต ตั้งแต่เมื่อปีพ.ศ. 2514 ทำให้พื้นดินจุดที่ตั้งแท่นขุดเจาะนั้นยุบลงไปเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่ และมีข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญในเติร์กเมนิสถานระบุว่า หลุมแก๊สดาร์วาซา เกิดขึ้นมานานกว่า 50 ปีแล้ว แต่การลุกไหม้เกิดเป็นไฟโชติช่วงอยู่ภายในหลุมในอีกประมาณ 20 ปีต่อมา และยังไม่ดับลงจนถึงทุกวันนี้ ทำให้ทะเลทรายแห่งนี้มีแสงจากไฟลุกโชนตลอด 24 ชั่วโมง กลายเป็น หนึ่งใน Unseen ของโลก
ค่ำ บริการอาหารค่ำ *แบบบาร์บีคิว* ท่ามกลางทะเลทรายคาราคุม (Karakum)
หลังอาหาร นำท่านเดินทางสู่ เมืองดาโชกุซ (Dashoguz) (ระยะทาง 300 กม. / 4.30 ชม.) ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของเติร์กเมนิสถาน เป็นเมืองที่มีความสำคัญในแง่ของประวัติศาสตร์สมัยโบราณในช่วงที่เส้นทางสายไหมเจริญรุ่งเรือง
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Dashoguz Hotel หรือเทียบเท่า (N3)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองคีว่า (Khiva) อุซเบกิสถาน (ระยะทาง 69 กม. / 1.20 ชม.) เป็นเมืองเล็ก ๆ ที่ตั้งอยู่ในแคว้นโซราสม์ ทางฝั่งตะวันตกของอุซเบกิสถาน จัดเป็นเมืองในตำนานเส้นทางสายไหม มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 เหล่าคาราวานต้องแวะพักที่นี่ระหว่างการเดินทางไป-กลับจีน ซึ่งได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็น “เมืองที่มีโดมนับพันโดม (The City of a Thousand Domes)” มีสถานท่องเที่ยวที่สำคัญตั้งอยู่ในกำแพงเมืองเก่า
นำชม อิทชานคาล่า (Itchan Kala) ภายในป้อมปราการขนาดใหญ่แห่งนี้จะประกอบไปด้วยสถานที่ต่าง ๆ พระราชวัง โรงเรียนสอนศาสนา สุเหร่าที่ยิ่งใหญ่ มีหอคอยสูง ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคสีสันที่สวยงามและได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 1990 ชม ป้อมคุนยาอาร์ค (Kunya Ark Fortress) สร้างขึ้นในปลายศตวรรษที่ 17 ในปี ค.ศ. 1686-1688 ซึ่งตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกของอิชานคาล่า อีกทั้งยังเป็นพิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง ปัจจุบันเพียงไม่กี่อาคารของป้อมปราการที่เปิดให้เข้าชมได้
ชม หอคอยสูง (Kalta Minor Tower) ตั้งเด่นเป็นสีฟ้าตัดกับสีทรายของเมือง จึงทำให้หอคอยแห่งนี้กลายเป็นสัญลักษณ์สำคัญของเมืองคีว่า ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสคสีสันสวยงาม เป็นหอคอยแห่งเดียวที่ปูด้วยกระเบื้องเคลือบ มีความหลากหลายและมีหลายสี แต่สีน้ำเงินและสีเขียวเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลมากที่สุด สีฟ้านี้เป็นสีที่พบบ่อยที่สุดของการประดับตกแต่งในอาคารประวัติศาสตร์หลายแห่งของประเทศในเอเชียกลาง โดย เฉพาะในอุซเบกิสถาน ผ่านชม โรงเรียนสอนศาสนามูฮัมหมัด อามินข่าน (Muhammad Amin khan Madrassah) ชมรูปแบบและศิลปะในการก่อสร้างที่บ่งบอกถึงความคิดของคนในสมัยน้ัน ที่มีความสามารถและมีความละเอียดอ่อนในการก่อสร้าง นอกจากน้ันความสวยงามแบบศิลปะอิสลามของกระเบื้องทุกแผ่นที่ใช้ในการตกแต่งภายนอกและภายในสถานที่แห่งนี้ได้ ถูกสร้างโดย อิสลามโคจา (Islam Khoja) ผู้มีบทบาทในการดูแลและเผยแพร่ศาสนา สร้างสุเหร่า มัสยิด โรงเรียน และยังมีหอคอยมินาเรตที่สูงที่สุด ประมาณ 45 เมตร มีลวดลายสวยงาม สร้างในปี ค.ศ. 1910 นอกจากนั้นยังได้สร้างพิพิธภัณฑ์ที่ดีที่สุดในเมืองนี้อีกด้วย
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำท่านชม มัสยิดจูมา (Juma Mosque) มัสยิดประจำเมือง ซึ่งเป็นมัสยิดใหญ่ใจกลางเมืองเก่า ภายในมีเสาไม้แกะสลัก จำนวน 218 ต้น แต่ละต้นสูง 3.15 เมตร ภายในเป็นห้องเดี่ยว ไม่มีโดม และไม่มีซุ้มประตูโค้งอย่างมัสยิดทั่วไป ในอดีตอาณาจักรคอริซึม (Khorezm) เคยถูกรุกราน เสาไม้ดังกล่าวได้รับความเสียหายเหลือเพียง 17 เสา แต่ได้มีการบูรณะมาตลอดจนสิ้้นสุดในศตวรรษที่ 18 ผ่านชม พระราชวังทัชคอบลี (Tash Khovli / Stone Yard Palace) เป็นพระราชวังฤดูร้อน ที่มีรูปแบบในการก่อสร้างอย่างสวยงาม และมีรูปแบบการใช้งานและการจัดสรรการใช้งานของห้องต่าง ๆ ชม ที่ฝั่งศพของมัคหมูด พาคลาวาน (Mausoleum of Makhmud Pakhlavan) กวีและนักรบที่มีชื่อเสียงของศตวรรษที่ 14 โดมของสุสานปูด้วยกระเบื้องเคลือบสีน้ำเงินพร้อมยอดทองระยิบระยับ ผนังของสุสานตกแต่งด้วยมาโจลิกาอันงดงาม
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Shahriston Hotel หรือเทียบเท่า (N4)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
เดินทางถึง เมืองบูคาร่า (Bukhara) (ระยะทาง 447 กม. / 6.10 ชม.) เป็นเมืองศูนย์กลางการปกครองของจังหวัดบูคาร่า ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอุซเบกิสถาน ในอดีตเป็นเมืองโบราณที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นบนเนินเขา สำหรับประกอบพิธีทางศาสนาในฤดูใบไม้ผลิ และยังเป็นเมืองที่กำเนิดงานเขียนของผู้ที่นับถือศาสนาโซโรแอสเตอร์ นอกจากนี้ยังเป็นที่อยู่ของบุคคลสำคัญ มีสุเหร่า อนุสาวรีย์ อนุสรณ์สถาน โรงเรียนสอนศาสนา และยังได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปีค.ศ. 1993
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำท่านชม ป้อมดิอาร์ค ป้อมปราการแห่งบูคาร่า (Ark of Bukhara) (ด้านนอก) ซึ่งเป็นป้อมเก่าแก่สร้างในศตวรรษที่ 5 ตั้งอยู่ใจกลางเมือง และเมื่อขึ้นไปด้านบนของป้อมจะสามารถเห็นวิวทิวทัศน์ของเมืองได้อย่างชัดเจน มีกําแพงล้อมรอบมีความยาวประมาณ 800 เมตร ส่วนของกําแพงมีความสูงถึง 16-20 เมตร ถูกสร้างด้วยอิฐหนาทึบและสูงใหญ่ ส่วนประตูมีซุ้มโค้งและหอคอยทั้งสองด้าน ซึ่งในอดีตภายในถูกใช้เป็นศูนย์กลางการปกครอง.... ชม สุเหร่าไม้ (Bolo Hauz Mosque) เป็นอาคารสุเหร่าในสมัยกลาง ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ.1712-1713 รูปแบบในการก่อสร้างประกอบไปด้วยเสาไม้ที่มีความสูงมาก อาคารด้านหน้ามีเสาไม้ประดับมาก กว่า 20 ต้นรองรับดาดฟ้าหลังคา ต่อมาในปี ค.ศ. 1917 ก็ได้ใช้สถานที่แห่งนี้เป็นสุเหร่าอย่างเป็นทางการมาจนถึงปัจจุบันนี้…
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Omar Khayyam Hotel หรือเทียบเท่า (N5)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม มัสยิดคาลอน (Kalon Mosque) และ หอมินาเรต (Kalon Minaret) ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยศตวรรษที่ 12 แต่ก็ถูกทำลายโดยชาวมองโกล มาสร้างใหม่อีกครั้งราว ๆ ปี ค.ศ. 1514 มัสยิดแห่งนี้ทำหน้าเป็นมัสยิดประจำวันศุกร์ของเมืองมาหลายร้อยปีแล้ว สามารถจุคนได้ 10,000 คน คำว่า “คาลอน” แปลว่า “ยิ่งใหญ่” ส่วนคำว่า “มินาเรต” มาจากคำว่า มานารา (Manara) ในภาษาอาหรับที่แปลว่า “หอใช้สำหรับเรียกผู้คนให้เข้ามาทำการละหมาดที่มัสยิด” และสำหรับบอกทิศให้กับกองคาราวานที่เดินทางยามค่ำคืน...
นำท่านเดินทางสู่ โดมแห่งการค้า โทกิ-ซาร์การอน (Toki-Zargaron Trading Dome) เป็นโดมการค้าที่ใหญ่ที่สุดในบูคาร่า “ซาร์การอน (Zargaron)” เป็นชื่อของโดมการค้าแห่งนี้ ซึ่งมาจากคำว่า “ซาร์การ์ (Zargar)” มีความหมายว่า ช่างทอง ครั้งหนึ่งเคยมีงานประกอบตัวเรือนของร้านจำหน่ายอัญมณีถึง 36 ร้าน อีกทั้งยังเป็นโดมการค้าแห่งแรกในเมืองบูคาร่า ให้ท่านเลือกซื้อสินค้าภายในโดมอันยิ่งใหญ่ มีอยู่ 3 ส่วน คือทากิ ซาร์การอน (Taqi Zargaron) ซึ่งเป็นโดมที่พวกอินเดียทำการค้าขายและแลกเงินตรา ทากิ ซาร์ราฟอน (Taqi Sarrafon) เป็นโดมที่ค้าขายเกี่ยวกับสิ่งมีค่าอัญมณีต่าง ๆ และ ทากิ เทลปัก ฟูรูโช่น (Taqi Telpak Furushon) เป็นโดมที่ค้าขายของที่เป็นสินค้าสำหรับทั่ว ๆ ไป รวมทั้งของที่ระลึก เช่น ชาหอม หมวกขนแกะ พรม ผ้าที่เย็บด้วยมือ และสินค้าอื่น ๆ อีกมากมาย
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำท่านเดินทางสู่ เมืองซามาร์คานด์ (Samarkand) (ระยะทาง 269 กม. / 4.30 ชม.) เป็นเมืองเก่าแก่ที่สุดเมืองหนึ่งในเอเชียกลาง ตั้งอยู่ในโอเอซิส ซึ่งได้รับน้ำมาจากคลองที่ขุดมาจากแม่น้ำซารัฟชาน อเล็กซานเดอร์มหาราชได้ผ่านมาเมืองนี้เพื่อที่จะเดินทางไปยังอินเดีย จึงได้ยึดครองเอาไว้ ต่อจากนั้นก็เป็นพวกอาหรับ พวกเติร์กก็ได้เข้ามาปกครองต่อ ๆ กันมา เมืองนี้ได้มีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดในยุคกลาง และในปี ค.ศ. 1215 เจงกิส ข่าน ได้แผ่อาณาจักรเข้ามาควบคุมเส้นทางสายไหม และเข้ายึดเมืองนี้ในปีค.ศ. 1221 และอีกประมาณร้อยปี
ต่อมา ตีมูร์ข่าน ก็ได้สร้างอาณาจักรแห่งนี้ให้มีความเจริญรุ่งเรืองขึ้นมา จนได้รับสมญานามว่า “เมืองแห่งโดมสีฟ้า (The City of Blue Domes)” ในประวัติศาสตร์ ถ้านับย้อนหลังไปหลายร้อยปีและยังได้ชื่อว่าเป็น ต้นกำเนิดแห่งนิยาย 1001 อาหรับราตรี (1001 Arabian Nights) และได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกโลกในปี ค.ศ. 2001 อีกด้วย..
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Al Madina Hotel หรือเทียบเท่า (N6)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชม สุสานอามีร์ ตีมูร์ข่าน (Amir Temur Mausoleum - Gur I Amir Complex) สร้างขึ้นโดยข่าน ตีมูร์ในปี ค.ศ. 1403 เพื่อใช้เป็นที่ฝังศพของ สุลต่าน มูฮัมหมัด (Sultan Muhammad) ซึ่งเป็นหลานรักที่เสียชีวิตในเปอร์เซีย มีประตูทางเข้าก่ออิฐถือปูนตั้งเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าซุ้มโค้ง มีโดมสีฟ้าผิวลอนกระดูกงูสูงประมาณ 36 เมตร ผนัง ห้องและเพดานโค้ง ภายในประดับด้วยกระเบื้องอิฐเผาลงด้วยลายสีทอง สีอำพัน สีฟ้าน้ำทะเล แต่ก่อนหน้านั้นในปี ค.ศ. 1380 อาเมียร์ ตีมูร์ ได้โปรดให้สร้างที่ฝังศพของพระองค์เตรียมไว้ก่อนที่บ้านเกิดคือ เมืองชาห์ริซาบซ์ แต่ในระหว่างที่ได้ยกทัพไปบุกจีน และได้สิ้นพระชนม์ เมื่อปีค.ศ. 1405 จึงได้นำพระศพเดินทางกลับมาภายใน 24 ชม. เพื่อฝังตามหลักศาสนา แต่ก็ไม่สามารถทำได้ทันเวลา จึงได้ฝังไว้ที่ กูริ อาเมียร์ และต่อมาก็ได้ใช้เป็นสุสานของผู้ปกครองนครซามาร์คานด์หลายพระองค์ สถานที่แห่งนี้มีความโดดเด่นทางด้านสถาปัตยกรรมจนเป็นที่เลื่องลือไปทั่วโลก... จากนั้นชม จตุรัสเรจีสถาน (Registan Square) เป็นจัตุรัสกลางเมืองที่มีชื่อเสียงและยิ่งใหญ่ งดงามไปด้วยศิลปะอิสลาม ซึ่งถูกกล่าวขานว่า มีความงดงามที่สุดในเอเชียกลาง ตกแต่งด้วยกระเบื้องเคลือบสีฟ้าตัดขอบด้วยสีเหลือง รายล้อมไปด้วยโรงเรียนสอนศาสนา (Madrasah) ถึง 3 แห่ง คือ อูลุค เบก (Ulug Beg) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1417-1420 และ เชียร์ ดอร์ (Shir Dor) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออก ถูกสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1619-1636 โดยเลียนแบบมาจากอูลุค เบค ผนังกำแพงมีลวดลายรูปทรงเลขาคณิต และซุ้มประตูมีรูปเสือลายพาดกลอนที่แตกต่างไปจากสถาปัตยกรรมทั่ว ๆ ไปของศาสนาอิสลาม ส่วน ทิลยา คารี (Tilya Kari) ถูกสร้างขึ้นอยู่ทางด้านเหนือในศตวรรษที่ 17 และใช้เวลาสร้างประมาณ 20 ปี ซึ่งผนังและซุ้มในกำแพงมีการปิดทองมากกว่าที่อื่นใด…
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำท่านชม หอดูดาวอูลุก เบค (Ulug Beg Observatory) เป็นสถานที่เก็บอุปกรณ์ที่ใช้ดูดาว สร้างโดยข่าน อูลุข เบค ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความอัจฉริยะทางดาราศาสตร์ของท่าน ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1428-1429 เป็นอาคาร 3 ชั้น สูงประมาณ 30 เมตร มีด้านบนยอดคล้ายกับโดม สถานที่แห่งนี้แสดงถึงเรื่องราวทาง ดาราศาสตร์ สิ่งประดิษฐ์ เครื่องมือ เครื่องใช้ อุปกรณ์ดูดาวของท่านข่าน ที่ท่านเคยคำนวณรอบปีผิดไปเพียงเล็กน้อยเท่านั้น หลังจากที่ท่านเสียชีวิต สถานที่แห่งนี้ได้รับความเสียหายจากพวกขโมยและพวกคลั่งศาสนา แต่ชั้นล่างมิได้ถูกทำลาย และต่อมาได้รับการซ่อมแซมขึ้นใหม่ในปีค.ศ. 1929
จากนั้นนำท่านไปเดินชม ตลาดกลาง (Central Market / Siyab Bazaar) ซึ่งเป็นตลาดที่มีชื่อเสียง มีความประหลาดที่น่าทึ่งและเป็นหนึ่งเดียวของเมืองซามาร์คาน ที่ผู้คนยังคงแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่เป็นวัฒนธรรมของชาวอุซเบกและสวมหมวกที่สวยงาม อิสระให้ท่านเลือกซื้อสินค้าที่ บาซาร์ ซึ่งมีสินค้าต่าง ๆ มากมายที่ราคาถูกและสวยงาม เช่น ผลไม้สด พืชผักต่าง ๆ ขนมหวาน องุ่นแห้งที่มีทั้งสีเหลืองและดำ... เดินทางสู่ เมืองปันจาเคนท์ (Panjakent) (ระยะทาง 61 กม./ 1.20 ชม.) เป็นเมืองที่ตั้งอยู่ในแคว้นซูกด์ ติดกับชายแดนอุซเบกิสถาน เมืองนี้เคยเป็นศูนย์กลางของอาณาจักรซอคเดียน (Sogdian) ตรงบริเวณหุบเขาซีรัฟชาน (Zeravshan Valley) (ซอคเดียน คือกลุ่มคนที่พูดภาษาอิหร่าน ซึ่งเป็นชนกลุ่มใหญ่ที่อาศัยอยู่ในแถบเอเชียกลางในยุคก่อนการเข้ามาของศาสนาอิสลาม ) มีการค้นพบซากอารยธรรมศาสนาโซโรอัสเตอร์มากมาย ระหว่างทางจะผ่านเมืองไอนี (Ayni) แวะผ่อนคลายอิริยบถและชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวทาจิกซึ่งอาศัยอยู่ในแถบหุบเขาสูง ก่อนเดินทางต่อจนถึงเมืองปันจาเคนท์
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Penjakent Plaza Hotel หรือเทียบเท่า (N7)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางเข้าสู่ เมืองดูชานเบ (ระยะทาง 236 กม. / 4.10 ชม.) เมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดใน ทาจิกิสถาน คำว่า “ดูชานเบ” ในภาษาทาจิกมีความหมายว่า "วันจันทร์" ซึ่งเป็นชื่อที่มาจากข้อเท็จจริงที่เมืองเป็นสถานที่ตั้งของหมู่บ้านที่มีชื่อเสียงเรื่องตลาดวันจันทร์...
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำท่านเข้าชม พิพิธภัณฑ์โบราณวัตถุแห่งชาติ (Museum National Antiquities) ซึ่งเป็นสถานที่จัดแสดงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์, ศิลปะวัฒนธรรม, ถือเป็นหนึ่งในพิพิธภัณฑ์อันทรงคุณค่าที่ดีที่สุดของทาจิกิสถาน ภายในจัดแสดงเรื่องราวผ่านวัตถุทางประวัติศาสตร์ร่วมสมัย และรวบรวมโบราณวัตถุล้ำค่าไว้มากมาย ที่ดูโดดเด่นมากที่สุดคือ องค์พระพุทธรูปปางนิพพาน ความยาว 13 เมตรที่ได้มาจากเมืองอาจินา เทปเป ทางตอนใต้ของทาจิกิสถาน...
นำท่านชม อนุสาวรีย์อิสมาอิล ซามานี (Ismail Samani Monument) บริเวณย่านนี้จัดได้ว่าเป็น จุดศูนย์รวมของเมือง โดยมีอนุสาวรีย์รูปปั้นของกษัตริย์อิสมาอิล โซมานีตั้งอยู่โดดเด่นเป็นสง่า พระองค์เป็นกษัตริย์ผู้มีพระปรีชาสามารถในการรวบรวมอาณาจักรให้เป็นปึกแผ่นรุ่งเรืองในช่วงสมัยราชวงศ์ซามานิด ราวศตวรรษ ที่ 9-10 โดยรอบของอนุสาวรีย์เต็มไปด้วยสถานที่สำคัญไม่ว่าจะเป็น อาคารที่ทำการของรัฐบาล (Palace of Nation) ที่ใช้รับรองแขกบ้านแขกเมืองสำคัญ ๆ ซึ่งด้านหน้าจะมี เสาธงชาติทาจิกิสถาน (Flag Pole) สูงตระหง่านถึง 165 เมตร ที่ครั้งหนึ่งเคยมีความสูงที่สุดในโลกครองสถิติกว่า 3 ปี (ค.ศ. 2011-2014) ถ้าไม่มีเสาธงของชาติซาอุดีอาระเบีย อันที่สร้างขึ้นใหม่มาลบสถิติที่เมืองเจดดาห์ที่สูงถึง 171 เมตร ตรงข้ามกับอนุสาวรีย์ของกษัตริย์โซมานีเป็นที่ตั้งของ อาคารรัฐสภา (Tajikistan Parliament) อาคารสีแดงโดดเด่นและบริเวณใกล้เคียง ยังมี หอสมุดแห่งชาติ (National Library) อาคารรูปเก๋ ๆ เป็นรูปหนังสือที่ถูกกางเปิดออก ที่นี่ว่ากันว่ามีหนังสือถึง 10 ล้านเล่ม นับว่าเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนที่รักการอ่านอย่างจริงจัง เดินต่อไปเลียบผ่านแนวน้ำพุสวยงามยาวตลอดทาง จะพบ อนุสาวรีย์รัฐธรรมนูญ (Independence Monument) ที่มีสัญลักษณ์ที่สำคัญของประเทศประดับอยู่ เดินต่อไปชมสวนสาธารณะใจกลางเมือง ที่ตั้งชื่อเป็นเกียรติให้แก่กวีเอกชาวเปอร์เชีย “รูดากิ” ณ บริเวณ สวนสาธารณะรูดากิ (Rudaki Park) เป็นสถานที่พักผ่อนหย่อนใจของชาวเมืองหลวงที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่และดอกไม้นานาพันธุ์... จากนั้นชมวิถีชีวิตของชาวเมืองทาจิก ณ Sakhovat Bazaar เป็นตลาดขนาดใหญ่มาก ที่มีจำหน่ายทั้งเนื้อสัตว์ ผักสด ผลไม้สด อาหารต่าง ๆ ตลอดจนเครื่องใช้อุปโภค-บริโภค อิสระให้ท่านเดินชม ชิม ช้อป ตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Atlas Hotel หรือเทียบเท่า (N8)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อเดินทางสู่ เมืองทาชเคนต์ (Tashkent)
10.30 น. ออกเดินทางสู่ เมืองทาชเคนต์ (Tashkent) โดยสายการบิน Uzbekistan Airways เที่ยวบินที่ HY718
11.30 น. เดินทางถึง เมืองทาชเคนต์ (Tashkent) เมืองหลวงของอุซเบกิสถาน ที่ตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของประเทศ มีความหมายว่า เมืองแห่งศิลา (The City of Stone) เป็นเมืองที่ใหญ่ประกอบไปด้วยโรงงานอุตสาหกรรมและเป็นศูนย์กลางของวัฒนธรรมในเอเชียกลาง มีประชากรประมาณ 2 ล้านคน เป็นประเทศในเอเชียกลางที่ถูกล้อมรอบด้วยประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล (Double Landlocked Country) มีพรมแดนติดประเทศ คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน เติร์กเมนิสถาน และอัฟกานิสถาน นำท่านชมความสวยงามของเมืองหลวง ซึ่งเป็นเมืองที่เก่าแก่ที่ยังคงเหลืออยู่ หลังจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี ค.ศ. 1966 เมืองนี้ตั้งอยู่บนเส้นทางสายไหมจากจีนสู่ยุโรป และหลังจากการปฏิวัติ เมืองนี้กลายเป็นเมืองที่มีความทันสมัยออกแบบในสไตล์ของโซเวียต...
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำท่านชม จัตุรัสเสรีภาพ หรือ จัตุรัสมุสตาคิลลิก (Independence Square หรือ Mustakillik Square) เป็นหัวใจของเมืองและเป็นสัญลักษณ์แห่งอิสรภาพของคนในชาติทางเดินสู่จัตุรัสออกแบบด้วยประตูโค้งที่สวยงาม กับรูปปั้นนกกระทุงแปดตัวบินขึ้นสู่ท้องฟ้าผ่านความหวังไปยังใจกลางของจัตุรัส และอีกด้านของจัตุรัสเป็นอนุสาวรีย์ทหารและวีรชนที่เสียชีวิตในสงครามโลกครั้งที่ 2...
ชม จัตุรัสอามีร์ ตีมูร์ (Amir Timur Square) หัวใจของเมืองทาชเคนต์ ตัวอนุสาวรีย์ทำจากสัมฤทธิ์
ชม จัตุรัสอามีร์ ตีมูร์ (Amir Timur Square) หัวใจของเมืองทาชเคนต์ ตัวอนุสาวรีย์ทำจากสัมฤทธิ์ เป็นรูปตีมูร์ประทับบนหลังม้าอย่างสง่างาม จากนั้นนำท่านไป ตลาดคอร์ซู (Chorsu Bazaar) เป็นรูปโดมสีฟ้าสด ซึ่งครั้งหนึ่ง เคยเป็นตลาดที่ยิ่งใหญ่ในเอเชียกลางและบนเส้นทางสายไหม ที่อยู่ภายใต้โดม 7 โดมขายผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ สัมผัสกับบรรยากาศแบบย้อนยุคที่ถูกรื้อฟื้นขึ้นมาใหม่ สนุกกับการซื้อสินค้าในบาซาร์ ที่มีทั้งผ้าแพร พรม เครื่องทองเหลือง ผ้าขนสัตว์ เครื่องหนัง ผัก-ผลไม้ และสินค้าพื้นเมืองมากมาย…
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Qushbegi Plaza Hotel หรือเทียบเท่า (N9)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่สนามบิน เพื่อเดินทางสู่ เมืองอัลมาตี้ (Almaty)
08.15 น. ออกเดินทางสู่ เมืองอัลมาตี้ (Almaty) โดยสายการบิน Uzbekistan Airways เที่ยวบินที่ HY761
09.45 น. เดินทางถึง สนามบินอัลมาตี้ หลังผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองและผ่านด่านศุลกากรแล้ว
นำท่านชม เมืองอัลมาตี้ (Almaty) คาซัคสถาน เมืองที่ใหญ่ที่สุดในคาซัคสถาน มีประชากรประมาณ 1,226,000 คน อีกทั้งเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของประเทศ เคยเป็นเมืองหลวงของคาซัคสถาน ช่วงปี ค.ศ. 1929-1998... นำท่านสู่การช้อปปิ้งที่ ณ ล็อตเต้-ราคัต (Lotte-Rakhat) ให้ทุกท่านได้เลือกซื้อช็อคโกแลต ที่ราคาถูก ดี และอร่อย อิสระให้ท่านเลือกซื้อตามอัธยาศัย...
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำท่าน ขึ้นกระเช้าสู่ ชิมบูลัก สกีรีสอร์ท (Shymbulak Ski Resort) สกีรีสอร์ทที่ใหญ่และทันสมัยของเมืองอัลมาตี้ มีสภาพแวดล้อมด้วยเทือกเขาสูง ที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนบนยอดเขา ป่าสนอายุหลายร้อยปีและทะเลสาบในหุบเขา ซึ่งท่านสามารถชมทิวทัศน์ที่สวยงามของเมืองจากมุมสูงท่ามกลางสายลมหนาวอันสดชื่นจากสกีรีสอร์ทแห่งนี้ พื้นที่ของรีสอร์ทประกอบด้วยลานสกีและเครื่องเล่นสำหรับกิจกรรมหิมะหลากหลาย ซึ่งท่านสามารถเลือกใช้บริการได้ตามอัธยาศัย (ค่าอุปกรณ์และบริการของกิจกรรมต่าง ๆ ไม่ได้รวมอยู่ในค่าทัวร์)
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Grand Voyage Hotel หรือเทียบเท่า (N10)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านชมความสวยงามของ ทะเลสาบบิ๊กอัลมาตี้ (Big Almaty Lake) อ่างเก็บน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางเทือกเขาที่ความสูงเหนือระดับน้ำทะเลราว 2,511 เมตร เกิดจากธารน้ำแข็งโบราณ และเป็นแหล่งน้ำจืดเพื่อการบริโภคหลักของชาวอัลมาตี้ มีความยาว 1.6 กิโลเมตร ความกว้างระหว่าง 0.75-1 เมตร และมีความลึก 30-40 เมตร มีปริมาณน้ำถึง 14 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยปกติมีระดับน้ำสูงสุดในเดือนสิงหาคมและต่ำสุดในเดือนกุมภาพันธ์ สีของน้ำในทะเลสาบจะเปลี่ยนไปมาระหว่างสีเขียวและสีฟ้าครามตามช่วงเวลาและสภาพอากาศของปี มีความสวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของคาซัคสถาน
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำท่าน นั่งกระเช้าเพื่อขึ้นสู่จุดชมวิว เขาค็อกโทเบ (Kok-Tobe) ค็อกโทเบเป็นภูเขาที่มีความสูงเหนือระดับ น้ำทะเล 1,100 เมตร และเป็นพื้นที่สันทนาการที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองอัลมาตี้ มีกิจกรรมต่าง ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวไม่เบื่อ ไม่ว่าจะเป็นร้านค้า ร้านอาหาร สวนสนุก รวมถึงเป็นจุดชมวิวเมืองอัลมาตีในมุมสูง เป็นที่ตั้งของหอส่งสัญญาณโทรทัศน์ที่มีความสูง ถึง 372 เมตร จึงสามารถมองเห็นได้จากมุมสูงแทบทุกจุดในตัวเมืองอัลมาตี้…
จากนั้นนำท่านชม จัตุรัสรีพับลิค (Republic Square) จัตุรัสสำคัญที่ใช้ในการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของเมืองอัลมาตี้ เคยเป็นที่ตั้งของทำเนียบประธานาธิบดี ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของสำนักงานเทศบาล ชม อนุสาวรีย์แห่งอิสรภาพ (Independence Monument) หรือ อนุสาวรีย์นักรบทอง ตั้งอยู่ในบริเวณจัตุรัสรีพับลิค ตั้งอยู่บนเสาสูง 91 ฟุต เป็น สัญลักษณ์แห่งความเป็นอิสระของคาซัคสถาน บทบาทของพลเมืองและเมืองอัลมาตี้ในฐานะเมืองหลวง จนกระทั่งมีการย้ายเมืองหลวงไปยังเมืองแอสตานา สวนสาธารณะแพนฟิลอฟ (Panfilov Park) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอัลมาตีฝั่งตะวันออก รอบ ๆ วิหารเซนคอฟ ตั้งชื่อตามวีรบุรุษแห่งแพนฟิลอฟ ซึ่งเป็นทหาร 28 นาย ที่เสียชีวิตจากการรุกรานของทหารนาซีเยอรมันนอกกรุงมอสโกในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 คำว่า แพนฟิลอฟ นั้นมาจากชื่อของ อิวาน แพนฟิลอฟ ซึ่งเป็นนายพลผู้บัญชาการกอง ชม วิหารเซนคอฟ (Zenkov Cathedral) วิหารคริสต์นิกายออร์โธดอกซ์ของรัสเซีย สร้างเสร็จเมื่อปีค.ศ. 1907 เป็นวิหารที่สร้างขึ้นจากไม้โดยไม่ใช้ตะปูเลยทั้งหลัง สูง 56 เมตร และมีความทนทานต่อแผ่นดินไหว แม้ว่าตัวอาคารไม่มีการยึดด้วยตะปูเลย มีหอระฆังซึ่งเคยใช้ติดตั้งเครื่องส่งสัญญาณวิทยุเครื่องแรกของเมืองอัลมาตี้...
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
ท่านเข้าสู่ที่พัก Grand Voyage Hotel หรือเทียบเท่า (N11)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นำท่านเดินทางสู่ เมืองบิชเคก (Bishkek) คีร์กีซสถาน (ระยะทาง 247 กม. / 4.25 ชม.) ระหว่างทางเพลิดเพลินกับวิวทิวทัศน์ของ เทือกเขา Trans-Ili Alatau ที่เป็นพรมแดนธรรมชาติกั้นกลางระหว่างคีร์กีซสถานกับคาซัคสถาน
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำท่านเที่ยวชมในเขตตัว เมืองบิชเคก (Bishkek) โดยเริ่มจาก จัตุรัสกลางอาละทู (Ala-Too Square) ที่ตั้งของตึกรัฐสภา, ธนาคารชาติของคีร์กีซสถาน ชื่อเดิมว่า ‘จัตุรัสเลนิน’ ตั้งอยู่ที่ใจกลางเมือง สร้างขึ้นใน ค.ศ. 1984 เพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 60 ปี ของ Kyrgyz SSR ซึ่งในสมัยนั้นรูปปั้นใหญ่ยักษ์ของเลนินถูกวางไว้ตรงกลางจัตุรัส แต่ใน ค.ศ. 2003 ก็ได้ย้ายออกไปและนํารูปปั้นใหม่ Erkindik มาตั้งแทนที่..
ชม จัตุรัสประชาธิปไตย (Victory Square) ทรงกระโจมเยิร์ท (กระโจมของชนเผาคีร์กีซสมัยที่ยังเป็นชนเผ่าเร่ร่อน) ซึ่งศิลปินชาวโซเวียตรังสรรค์ขึ้นจากแนวคิดที่หวนรําลึกถึงความสูญเสียให้แก่ฝ่ายนาซี และเปลวไฟที่โชติช่วงนิรันดร์ก็เป็นการเน้นยํ้าถึงความเจ็บปวดของหญิงสาวที่รอคอยคนรักให้กลับมาจากสงคราม...
ชม มัสยิดกลางแห่งเมืองบิชเคก (Bishkek Central Mosque) ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียกลาง ภายในมีโคมไฟระย้าขนาดใหญ่ 2 อัน แขวนจากโดมตรงกลาง ซึ่งเป็นงานฝีมือแบบออตโตมัน มีความสูง 70 เมตร มีโดมขนาดใหญ่ ซึ่งมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 23 เมตร และสูง 37 เมตร โดยการใช้หินอ่อนสีขาวจากตุรกีในการสร้างอีกด้วย อิสระให้ท่านเก็บภาพและเดินชมบริเวณโดยรอบตามอัธยาศัย
ค่ำ บริการอาหารค่ำ ณ ห้องอาหาร
นำท่านเข้าสู่ที่พัก Damas Hotel หรือเทียบเท่า (N12)
เช้า บริการอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม
นําท่านเดินทางสู่ อุทยานแห่งชาติอะลา อาร์ชา (Ala Archa National Park) ซึ่งอยู่นอกเมืองบิชเคกไปทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 40 กิโลเมตร ที่นี่เป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนในเชิงธรรมชาติ ที่อยู่ใกล้เมืองหลวงที่สุด ซึ่งประกาศให้เป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อปีค.ศ. 1976 โดยมีพื้นที่รวมทั้งหมด 194 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย พื้นที่ภูเขา ที่ราบในหุบเขา และแม่น้ำสายเล็ก ๆ หลายสาย จึงทำให้มีทัศนียภาพที่สวยงามหลากหลาย และกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนยอดนิยมของคนเมืองหลวง มาช้านานแล้ว มีจุดชมวิวและถ่ายภาพแสนสวยมากมาย สามารถเที่ยวได้ในทุกฤดูกาล
เที่ยง บริการอาหารกลางวัน ณ ห้องอาหาร
บ่าย นำชม อนุสาวรีย์มานาส (The Statue of Manas) ซึ่งถือว่าเป็นทั้งบรรพบุรุษ และวีรบุรุษของชนชาติคีร์กีซ เป็นบุคคลในตำนานของคีร์กีซสถาน ชื่อของเขาปรากฏอยู่ทั่วทั้งเมืองในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นสนามบินใน เมืองบิชเคก มหาวิทยาลัย ถนนสายสำคัญ รวมไปถึงทั้งเมืองก็เต็มไปด้วยรูปปั้นของวีรบุรุษผู้นี้ อนุสาวรีย์แห่งนี้ตั้งอยู่บริเวณเดียวกับ Toktogul Square สวนสาธารณะทีมีน้ำพุและสวนไม้ดอกอันสวยงาม....
จากนั้นนำท่านไปยัง ตลาดออสบาซาร์ (Osh Bazaar) ที่เป็นตลาดท้องถิ่นที่ใหญ่ที่สุดของเมืองหลวง ที่ซึ่งมีสินค้าและอาหารหลากหลายชนิดให้ท่านได้พบเห็นและลิ้มลอง เพลิดเพลินไปกับบรรยากาศของผู้คนอันแสนพลุกพล่าน ที่นี่เป็นที่ที่ดีที่สุดที่ท่านจะได้เห็นชีวิตประจำวันที่แท้จริงของชาวคีร์กีซ...
สมควรแก่เวลา…นำท่านเดินทางสู่สนามบิน
18.50 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินทาชเคนต์ โดย Uzbekistan Airways เที่ยวบินที่ HY778 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
19.10 น. เดินทางถึง สนามบินทาชเคนต์ (แวะลงเพื่อเปลี่ยนเครื่องบิน)
22.30 น. ออกเดินทางสู่ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน Uzbekistan Airways เที่ยวบินที่ HY531 (บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่องบิน)
06.40 น. เดินทางถึง กรุงเทพฯ สนามบินสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ...พร้อมความประทับใจ...
✓ ค่าตั๋วเครื่องบิน ไป-กลับ ชั้นประหยัด สำหรับหมู่คณะ โดยสายการบิน Turkmenistan Airlines, Uzbekistan Airways ตามที่ระบุในรายการ
✓ ค่าภาษีสนามบิน ภาษีน้ำมัน และค่าประกันภัยทุกแห่งของสายการบิน (โดยคิดจากอัตรา ณ วันที่ 14 / 06 / 2567)
✓ ค่าระวางน้ำหนักกระเป๋า โหลดใต้ท้องเครื่องบิน
สายการบิน Turkmenistan Airlines 25 กก. จำนวน 1 ใบ และสำหรับหิ้วขึ้นเครื่อง 7 กก. จำนวน 1 ใบ
สายการบิน Uzbekistan Airways 23 กก. จำนวน 1 ใบ และสำหรับหิ้วขึ้นเครื่อง 8 กก. จำนวน 1 ใบ
✓ ค่าธรรมเนียมวีซ่าประเทศอุซเบกิสถานและประเทศเติร์กเมนิสถาน
✓ ค่าโรงแรมที่พักระดับมาตรฐาน 4 ดาว (พักห้องละ 2-3 ท่าน) ตามที่ระบุในรายการ
✓ ค่าเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ตามที่ระบุในรายการ
✓ ค่าอาหารตามที่ระบุในรายการ ตามระดับมาตรฐาน
✓ ค่าพาหนะท่องเที่ยวตลอดการเดินทาง
✓ ค่าบริการหัวหน้าทัวร์ผู้ชำนาญของทางบริษัทฯ ที่คอยอำนวยความสะดวกแก่ท่านตลอดการเดินทาง
✓ ค่าประกันอุบัติเหตุแบบกลุ่ม ระหว่างการเดินทาง วงเงินท่านละ 1,000,000 บาท และค่ารักษาพยาบาล วงเงินไม่เกิน 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์) **หากท่านประสงค์ที่จะซื้อประกันเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มความคุ้มครองในส่วนอื่น ๆ เพิ่ม กรุณาสอบถามรายละเอียดกับเจ้าหน้าที่ของท่าน**
✓ Welcome Pack “ซองใส่เอกสารเดินทางพร้อมเล่มโปรแกรมทัวร์”
ค่าธรรมเนียมน้ำมัน หรือภาษีสนามบินที่ทางสายการบินเรียกเก็บเพิ่มเติม หลังจากวันที่ 14 / 06 / 2567
ค่าทำหนังสือเดินทางสำหรับหน่วยงานข้าราชการ และบุคคลธรรมดา
ค่าทำใบอนุญาตกลับเข้าประเทศของคนต่างชาติ หรือคนต่างด้าว
ค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ เช่น ค่ามินิบาร์ในห้องพัก, ค่าโทรศัพท์, ค่าอาหาร, ค่าอาหารหรือเครื่องดื่มสั่งพิเศษ, ค่าซักรีด, ค่ารักษาพยาบาลกรณีเกิดการเจ็บป่วยจากโรคประจำตัว เป็นต้น
ค่าระวางน้ำหนักของกระเป๋าเดินทางที่เกินกว่าสายการบินกำหนดไว้
ค่าบริการยกกระเป๋าในโรงแรม (Porter) ซึ่งท่านจะต้องดูแลกระเป๋าและทรัพย์สินของท่านด้วยตัวท่านเอง
ค่าทิปไกด์ และคนขับรถท้องถิ่น ตลอดการเดินทาง ท่านละ 130 EUR / 5,000.- บาท ชำระพร้อมค่าทัวร์งวดสุดท้าย
**ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของท่าน (โดยมาตรฐานทิป ท่านละ 100 บาท/วัน) ***
ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% และภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3% (กรณีต้องการใบกำกับภาษี)
88 ซอยงามวงศ์วาน 3 ตำบลบางกระสอ อำเภอเมืองนนทบุรี นนทบุรี 11000